ภูมิคุ้มกันความจนของ สุนีย์ ชุมนพรัตน์
สุนีย์ ชุมนพรัตน์ ชาวบ้านสุเหร่า ต.ท่าน้ำ อ.ปะนาเระ จ.ปัตตานี เล่าถึงความยากลำบากที่ต้องเจอตั้งแต่วัยเด็ก เพราะความยากจนว่า บ้านก็ไม่มีจะอยู่ ต้องไปอาศัยคนอื่นเขาอยู่ “ก๊ะ” ทำงานทุกอย่าง ทั้งเข้ามาเย็บผ้าโหลที่กรุงเทพฯ ตั้งแต่อายุ 15 ปี เมื่อมีครอบครัวมีลูก ก็กลับบ้านที่จังหวัดปัตตานี มาทำงานก่อสร้าง, รับจ้างกรีดยาง, รับจ้างเลี้ยงกุ้งกุลาดำ, ทำนา, รับจ้างปอกมะพร้าว ปอกไม่เป็นก็ต้องพยายามทำให้เป็น จนมือแตกเป็นแผล ก๊ะและสามีไม่เคยท้อ แต่ว่าความยากจนก็ไม่เคยหนีหายไปไหน จนกระทั่ง “ก๊ะ” คิดอยากจะเลี้ยงแพะเพื่อนำมาใช้ในพิธีอากีเกาะฮ์ พิธีสำหรับเด็กแรกเกิด โดยคิดแค่ว่า เลี้ยงแพะไว้เอง หากมีลูกจะได้ไม่ต้องเสียเงินไปซื้อ ก็เพียงเพราะคำว่า “จน” เท่านั้น แต่นั่นกลับทำให้ “ก๊ะ” พบจุดเปลี่ยน เพราะการเลี้ยงแพะทำให้ก๊ะและครอบครัวเริ่มมีชีวิตที่ดีขึ้น จากที่ไม่เคยมีโอกาสจับเงินหมื่น ก็มีโอกาสได้จับเป็นครั้งแรก และเป็นเงินหมื่นที่ “ก๊ะ” นำไปซื้อขนำที่เขาใช้เก็บข้าว มาทำเป็นบ้านในราคา 9,500 บาท บ้านหลังแรกที่ “ก๊ะ” และครอบครัวยังคงเก็บรักษาไว้อยู่จนถึงทุกวันนี้
ช่างซ่อมโทรศัพท์มือถือ เพาะกล้วยใบด่างขาย จ.ตราด
กล้วยใบด่างของคุณกร และคุณโบว์ สองสามีภรรยา ที่ อ.เมือง จ.ตราด มีเหลืออยู่น้อยมาก เพราะที่ผ่านมา เพาะพันธุ์ได้เท่าไหร่ก็ส่งขายจนหมด ที่มีอยู่ก็ต้องดูแลเป็นอย่างดี เพราะราคาแพงทุกต้น คุณกรบอกว่าเมื่อก่อนเปิดร้านซ่อมโทรศัพท์มือถือในห้างสรรพสินค้า แต่พอเกิดโควิด-19 ห้างก็ต้องปิดไป ทำให้ไม่มีรายได้ เลยหันมาปลูกกล้วยด่างเพราะกำลังเป็นกระแส ประกอบกับการนำความรู้จากที่บ้าน ที่ทำอาชีพค้าขายอุปกรณ์ทางการเกษตรและปุ๋ย มาใช้ในการดูแลต้นกล้วย ทำให้ต้นพันธุ์ต้นแรกที่ซื้อมา เจริญงอกงามดี ขยายพันธุ์ได้อย่างรวดเร็ว สร้างรายได้ไม่ต่ำกว่า 2 แสนบาทต่อเดือน นอกจากนี้ก็ยังเพาะบอนสีขายควบคู่กันไปด้วย แต่รายได้อาจจะไม่ดีเท่ากล้วยด่าง แต่ถ้าได้ต้นที่มีลักษณะดีก็สามารถขายได้ราคาเช่นกัน
ติดตามชมรายการ HAVE A NEWSDAY วันพุธที่ 13 ต.ค. 64 เวลา 12.00 – 12.10 น. ทาง ALTV ทีวีเรียนสนุก ช่องหมายเลข 4
