เพราะความเชื่อทำให้นกแสกหลายตัวต้องมาจบชีวิตด้วยน้ำมือของมนุษย์
ถ้าเราได้เรียนรู้ เข้าใจ วัฏจักรธรมชาติที่แท้จริง นกแสกยังเป็นตัวของความอุดมสมบรูณ์ในผลผลิตทางการเกษตร และยังมีเรื่องราวของนกแสกที่น่าสนใจ ที่เราอาจไม่เคยรู้มาก่อน
นกแสกมีลักษณะตาสีดำกลมโต เมื่อเจอแสงไฟมากระทบตาเปลี่ยนเป็นสีแดง แต่ในความเป็นจริงแล้ว ตาของนกแสกสามารถเปลี่ยนสีได้ เพราะนกแสกเป็นสัตว์ล่าเนื้อในกลางคืน และใช้สายตาเป็นหลัก ที่สามารถมองเห็นสิ่งต่าง ๆ ที่อยู่ในที่มืดได้อย่างชัดเจน
โดยการร้องของนกแสกเกิดจากความหิวโหย หรือร้องเพื่อเตือนนกตัวอื่นไม่ให้เข้ามาในอาณาเขตหาอาหารของตัวเอง
ส่วนมากพบในถิ่นที่ใกล้กับชุมชนของมนุษย์ โดยจะอาศัยอยู่ตามหลังคาโบสถ์ในวัดวาต่าง ๆ หรือบ้านร้าง, ซอกมุมตึกหรือโพรงไม้
นกแสกเวลาที่มองหาเหยื่อมักจะบินไปเกาะตามมุมมืดไม่ว่าจะเป็นหลังคาโบสถ์ ยอดเมรุ หรือต้นไม้ใหญ่ ทำให้ดูลึกลับเข้าไปอีก เป็นเพราะนกแสกเป็นสัตว์หากินกลางคืน กลางวันก็จะอยู่ในรังหรือมุมมืดที่ปลอดภัยและจะออกมาตอนพลบค่ำและจะกลับรังในตอนรุ่งสาง
การล่าเหยื่อในตอนกลางคืนโดยจะเกาะจับตามเสาไม้ ต้นไม่ใหญ่ที่อยู่ในที่โล่งเพื่อมองหาเหยื่อด้านล่าง อาทิ ตามท้องนา ชายป่า
ด้วยธรรมชาติของนกแสกที่เป็นสัตว์ล่าเนื้อในตอนกลางคืนนั้น ทำให้ดูลึกลับน่ากลัว แต่ยังมีอีก 7 เรื่องน่าสนใจเกี่ยวกับนกแสก เป็นอีกมุมหนึ่งที่ใครหลายอาจจะมองข้ามไป หรือบางคนอาจไม่เคยรู้มาก่อน ว่าแท้ที่จริงแล้วนกแสกก็เป็นเพียงนกชนิดหนึ่ง ที่ไม่ได้มีพิษมีภัยอะไร แถมน่าตาก็ดูน่ารักอีกด้วย จะมีเรื่องอะไรบ้างมาดูกัน
นกแสกเป็นนกที่มีลักษณะสวยงาม หัวใหญ่ ใบหน้ามีรูปหัวใจยิ่งถ้าพวกมันหันหน้าเข้ากันแล้วยิ่งน่ารักไปใหญ่ แต่มอง ๆ ดูแล้ว ก็หน้าคล้าย ๆ ลิง บางประเทศยังเรียกว่า นกเค้าหน้าลิงอีกด้วย (monkey faced owl)
มีประสาทหูที่ดีมาก ๆ โดยนกแสกมีช่องเปิดหูทางด้านขวาจะอยู่สูงกว่าทางด้านซ้าย และเยื้องไปด้านหลังมากกว่า ทำให้การรับฟังเสียงของหูทั้งสองข้างเกิดขึ้นไม่พร้อมกัน มันจึงแยกแยะตำแหน่งและที่มาของเสียงได้อย่างแม่นยำ
นกแสกจะมีที่ขายาว และมีเล็บโค้งงอเป็นเขี้ยว ปลายเล็บแหลมคม สามารถใช้กรงเล็บล็อคเหยื่อได้อย่างไม่มีหลุด
นกชนิดนี้จะบินผ่านความมืดไปอย่างเงียบกริบ และรวดเร็วมจนมองไม่ทัน เพราะนกแสกในการล่าเหยื่อนั้นต้องอาศัยความเงียบ นกแสกสามารถบินได้เงียบมากที่สุด เพียงแค่ 0 dB (เดซิเบล) เลยทีเดียว
มีสายตาที่ดี มีกรงเล็บแหลมคม ประสาทการรับเสียงที่ดี และสามารถบินได้อย่างรวดเร็ว เป็นนกที่กินสัตว์ฟันแทะขนาดเล็กจำพวกหนูเป็นอาหาร โดยสัตว์ฟันแทะขนาดเล็กเหล่านี้มักอาศัยอยู่ตามสวน โดยเฉพาะสวนปาล์ม ซึ่งมีหนูเป็นศัตรูพืชตัวสำคัญ
ตามปกตินั้น นกแสกจะชอบอยู่กันเป็นคู่ หรือครอบครัว มากกว่าไม่ชอบรวมฝูงใหญ่ ๆ และชอบอาศัยอยู่ป่า โพรงไม้ หรืออาศัยตามที่สงบ ๆ ที่คนไม่สามารถรบกวนได้
นกแสกสามารถกินหนูที่มากัดกินพืชไร่ กัดกินเมล็ดข้าวเปลือกในยุ้งฉาง หรือสวนปาล์ม ใน 1 คืน นกแสกกินหนูได้ 2 ตัว ซึ่งแปลว่าใน 1 ปี นกแสก 1 ตัว จะสามารถกำจัดหนู ได้ถึง 700 ตัว เรียกได้ว่าเป็นนักล่าตัวยงเลยทีเดียว
นกแสกสามารถทำลายศัตรูพืชได้เป็นอย่างดี นกแสก 1 ตัว จะสามารถกำจัดหนู ได้ถึง 700 ตัว ต่อ 1 ปี ซึ่งเป็นการกำจัดหนูที่ได้จำนวนมาก โดยไม่ต้องใช้สารเคมี ยาเบื่อหนู เข้ามาช่วย ทำให้ชาวสวนประหยัดต้นทุนในการซื้อยาเบื่อหนู และยังทำให้เกิดความอุดมสมบรูณ์ของผลผลิตทางการเกษตรได้ดีอีกด้วย
ถ้าไปดูต่างประเทศอย่างที่อินเดีย “นกแสก” คือสัญลักษณ์ของความโชคดี เพราะนกแสกถือว่าเป็นนกของพระลักษมี ซึ่งเป็นเทวีแห่งความมั่งคั่งและความอุดมสมบรูณ์ของผลผลิตทางการเกษตร
ซึ่งความเชื่อของประเทศอินเดียนี้ จะสอดคล้องกับความเป็นจริงมากกว่า เพราะว่านกแสกสามารถกำจัดหนูในการทำการเกษตรได้เป็นอย่างดี
ยังไงแล้วนกแสกนั้น ไม่ได้น่ากลัวตามความเชื่ออย่างที่คิด ถ้าเราเรียนรู้และเข้าใจธรรมชาติอย่างแท้จริง “เราจะไม่ตัดสิน จากการบอกเหล่าที่ไม่สามารถจับต้องได้”
ขอชวนทุกคนไปดู ภารกิจปล่อยนกแสกในสวน ไปดูว่ากว่าที่นกนักล่าจะถูกปล่อยคืนสู่ธรรมชาติจะต้องผ่านกระบวนการอะไรบ้าง
ติดตามชมรายการ 2 องศา รายการที่ตามล่าหาคำตอบนอกห้องเรียนที่เราอาจไม่เคยรู้มาก่อน
ได้ที่ www.ALTV.tv/2Degrees
ขอบคุณข้อมูลจาก : BCST สมาคมอนุรักษ์นก